โชเซ่ มูรินโญ่ แข็งจัด ไม่ง้อใครหน้าไหน

หลังจากที่ฟอร์มของ เชลซี ในชุดนี้ย่ำแย่อย่างหนัก จนถึงขนาดว่ากำลังดำดิ่งลงไปท้ายตารางอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด สื่อหลายแขนงก็พลัดกันออกมาโจมตีอย่างสนุกสนาน รวมทั้งแฟนคลับต่างก็ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ทำให้มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการซื้อขายนักแตะที่กำลังจะเกิดขึ้น จนในที่สุด โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ทนกับกระแสการวิพากษ์ของสื่อต่างๆ ไม่ไหว เลยต้องออกมาเคลียร์ปัญหาเหล่านี้ด้วยการให้สัมภาษณ์ เพื่อเคลียร์ประเด็นต่างต่างๆ ให้หายข้อข้องใจทั้งหมด
เปลืองเงินเปล่าๆ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกส กล่าวออกมาหน้าสื่อมวลชน และแสดงความมั่นใจในแข้ง เชลซี ชุดปัจจุบันว่าตอนนี้ นักเตะภายในทีมมีความสามารถเกิน 1000 และบอกอย่างชัดเจนอีกว่าจะไม่เบิกคลังแน่นอน สำหรับการไล่ล่านักเตะใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาวนี้ ทีมไม่จำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่ง เพราะทีมเราแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าคะแนนของสิงห์บูลที่ออกมาในโค้งแรกของฤดูกาล จะตรงข้ามกับคำพูดของ โชเซ่ มูรินโญ่ ทุกอย่าง
โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่บอกถึงวันลงสนามของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตู ที่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง จนต้องผ่าตัดเมื่อเดือนกันยายน โดยบอกว่า “ทุกสิ่งกำลังเป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และภาพที่คุณมีไม่ใช่การตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้เขากลับมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมได้บางส่วน แต่เขาถึงอย่างนั้น เขาก็ยังต้องได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ต่อไป”
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมจอมเก๋าเกมของ เชลซี แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวก่อนที่จะเปิดถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อต้อนรับการมาเยือนของ นอริช ซิตี้ วันเสาร์ที่ 21 พ.ย. โดย โชเซ่ มูรินโญ่ ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะไม่มีการดึงผู้เล่นใหม่ๆ มาเสริมทัพ ในช่วงเปิดตลาดนักเตะฤดูหนาวนี้ อย่างแน่นอน
หลัง เชลซี กำลังทำผลงานน่าใจหายเป็นประวัติกาล แพ้ในลีกไปแล้ว 7 เกม จาก 12 นัดแรก จนอยู่ในอันดับ 16 กล่าวว่า “ผมจะไม่ร้องขออะไรทั้งนั้น กับบอร์ดบริหาร สำหรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม ในเปิดตลาดฤดูหนาวนี้ ผมเชื่อมั่นกับนักเตะในทีมทุกคน”
ขณะเดียวกัน โชเซ่ มูรินโญ่ ยังกล่าวถึงการก่อการร้านใน ปารีส “ผมเชื่อทุกคนไม่ใจจะทำอะไรมาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ตอนนี้มันถึงเวลา ที่ต้องใช้ชีวิตและทำงานต่อไป และผมคิดว่านั่นคือการ บอกให้พวกเขาได้รับรู้ว่าเราแข็งแกร่งมากพอ เกมระหว่าง ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เป็นตัวอย่างที่วิเศษสุด มันเป็นวิธีแสดงถึงความรู้สึกและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”